โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3

ที่มา : ข้อมูลโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 จากเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 1
วัตถุประสงค์ |
เพื่อให้สามารถรองรับตู้สินค้าได้เพิ่มขึ้นและเพิ่มศักยภาพในการรองรับเรือที่ไม่สามารถเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือกรุงเทพได้ |
|
จำนวนท่าเทียบเรือ |
มีทั้งหมด 11 ท่าเรือ แบ่งเป็น
|
|
ความสามารถรองรับสินค้า |
4.0 ล้านตู้ต่อปี |
ที่มา : http://laemchabangportphase3.com/port_02.html
โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 2
วัตถุประสงค์ |
เพื่อให้สามารถรองรับตู้สินค้าได้มากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถรองรับตู้สินค้าได้ถึง 6.8 ล้านตู้ต่อปี |
|
จำนวนท่าเทียบเรือ |
มีทั้งหมด 7 ท่าเรือ แบ่งเป็น
|
|
ความสามารถรองรับสินค้า |
6.8 ล้านตู้ต่อปี |
ที่มา : http://laemchabangportphase3.com/port_03.html
จากข้อมูลในปี 2559 พบว่า มีปริมาณตู้สินค้าที่ถูกขนส่งผ่านท่าเรือแหลมฉบัง ประมาณ 7 ล้านตู้ต่อปี และรถยนต์อีกประมาณ 1 ล้านคันต่อปี คิดเป็นร้อยละ 70 ของขีดความสามารถของท่าเรือแหลมฉบังในระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ที่รองรับตู้สินค้าได้สูงสุดที่ประมาณ 11 ล้านตู้ต่อปี และรถยนต์ประมาณ 2 ล้านคันต่อปี จึงเป็นที่มาของการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้
โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3
ที่ตั้งโครงการ |
ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี (เนื้อที่ 1,600 ไร่) |
|
วัตถุประสงค์ |
1) เพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งสินค้าได้มากขึ้น 18.1 ล้านตู้ต่อปี |
|
จำนวนท่าเทียบเรือ |
มีทั้งหมด 6 ท่าเรือ และ 1 สถานีรถไฟ แบ่งเป็น
(สามารถรองรับตู้สินค้าได้ 7 ล้านตู้ต่อปี)
(สามารถรองรับรถยนต์ผ่านท่าได้ 1 ล้านคันต่อปี)
(สามารถรองรับตู้สินค้าได้ถึง 1 ล้านตู้ต่อปี)
(สามารถรองรับตู้สินค้าได้ 4 ล้านตู้ต่อปี) |
|
ความสามารถรองรับสินค้า |
ประมาณ 18.1 ล้านตู้ต่อปี |
ที่มา : ข้อมูลโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 จากเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ซึ่งหากท่าเทียบเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 เปิดให้บริการครบทุกท่าเทียบเรือและสถานีขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ จะทำให้สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้าได้สูงสุดถึง 18.1 ล้านตู้ต่อปี อีกทั้ง ยังสามารถเชื่อมต่อการขนส่งหลายรูปแบบ (Multimodal Transportation) นำไปสู่การเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศแบบไร้รอยต่อ ทั้งการขนส่งสินค้าแบบถ่ายลำเรือ (Transhipment) และการขนส่งสินค้ารูปแบบรางรถไฟ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ กลุ่ม CLMV และจีนความคืบหน้าของการลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3
โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 มีมูลค่าการลงทุนเบื้องต้นประมาณ 1.5 แสนล้านบาท โดยจะมีรูปแบบการดำเนินการแบบให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (Public Private Partnership: PPP) มีระยะเวลาการดำเนินโครงการนับตั้งแต่การก่อสร้างและให้บริการรวมประมาณ 30-50 ปี โดยมีแผนการก่อสร้าง 8 ปี คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2568
ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการศึกษาและสำรวจผลกระทบต่างๆ ของโครงการ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และวิศวกรรม รวมถึงรายละเอียดผลตอบแทนของโครงการ โดยให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาของการท่าเรือแห่งประเทศไทยประเมินผลโดยละเอียด เพื่อให้เกิดผลกระทบทางลบน้อยที่สุด
โดยโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในครั้งนี้ ดำเนินการเพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการขนส่งสินค้าทางน้ำให้แก่ประเทศ เพื่อเน้นย้ำถึงจุดยืนการเป็นเกตเวย์หลักในภูมิภาค การเป็นศูนย์กลางทางการค้า อีกทั้งเพื่อเพิ่มศักยภาพการเป็นท่าเรือน้ำที่ล้ำสมัยด้วยการบริหารจัดการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ตลอดจนผสมผสานให้เป็นท่าเรือที่ให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อม
ที่มา : https://www.prachachat.net/local-economy/news-123335
แหล่งที่มา :
https://www.eeco.or.th/โครงการ/การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน/โครงการพัฒนาท่าเรือ-แหลมฉบัง-ระยะที่-3
http://laemchabangportphase3.com/port_01.html
http://laemchabangportphase3.com/port_02.html
http://laemchabangportphase3.com/port_03.html
https://baania.com/th/article/คมนาคม-ดึงเอกชนร่วมลงทุน-เร่งพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง-เฟส-3
https://www.prachachat.net/local-economy/news-123335
Related News & Media
สวนอุตสาหกรรม 304
สร้างระบบนิเวศที่พร้อมสำหรับอนาคตสำหรับธุรกิจ ด้วยพลังงานสีเขียว สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และการเชื่อมต่อระดับโลก
ติดต่อเรา


