พลังงานชีวมวล: พลังงานสะอาดสำหรับอุตสาหกรรมยุคใหม่

พลังงานชีวมวล: พลังงานสะอาดสำหรับอุตสาหกรรมยุคใหม่

ในยุคที่ภาคอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการลดของเสีย ลดการปล่อยคาร์บอน และบริหารทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ พลังงานชีวมวลได้กลายเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจำนวนมาก เช่น เศษไม้ แกลบ กากอ้อย หรือมูลสัตว์ ซึ่งสามารถนำกลับมาใช้เป็นแหล่งพลังงานสะอาด ที่ช่วยลดภาระต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างมูลค่าเพิ่มควบคู่กันไป

นอกจากนี้ แหล่งพลังงานชีวมวลยังสามารถสร้างได้ เช่น การปลูก “ต้นพลังงาน” ที่เติบโตได้เร็ว ให้ความร้อนสูง อีกทั้งยังช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชน

พลังงานชีวมวลไม่เพียงลดปริมาณขยะทางชีวภาพ (ฺBiowaste) เท่านั้น แต่ยังสะท้อนความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เสริมภาพลักษณ์องค์กรด้าน ESG (Environmental, Social, and Governance) และสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero พลังงานชีวมวลจึงไม่ใช่แค่พลังงานทางเลือก แต่คือพลังงานแห่งอนาคตสำหรับอุตสาหกรรม

พลังงานชีวมวล คืออะไร?

พลังงานชีวมวล (Biomass energy) หมายถึง พลังงานที่ได้จากการนำอินทรียวัตถุหรือเศษวัสดุการเกษตร เช่น เปลือกไม้ กากอ้อย และมูลสัตว์มาเป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลิตพลังงานความร้อน หรือไฟฟ้า พลังงานชีวมวลถือเป็นหนึ่งในพลังงานหมุนเวียนที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีวัตถุดิบเหล่านี้อยู่เป็นจำนวนมากในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมแปรรูป

การนำพลังงานชีวมวลมาใช้งานมีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน เช่น การเผาไหม้โดยตรง การแปรสภาพเป็นก๊าซชีวภาพ หรือการใช้ระบบหม้อไอน้ำ CFB โดยวัตถุดิบที่สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงได้มีอยู่หลากหลาย เช่น

  • เศษวัสดุทางการเกษตร เช่น ท่อนไม้ เศษไม้ ก้านพืช ฟาง และแกลบ มูลสัตว์ เช่น วัวและสุกร

  • ขยะมูลฝอยในครัวเรือน เช่น เศษอาหารและขยะจากสวนสัตว์

  • เชื้อเพลิงชีวภาพในรูปแบบของเหลว เช่น ไบโอดีเซล (Biodiesel), เมทานอล (Methanol) และเอทานอล (Ethanol)

  • พืชที่ปลูกหรือเพาะเพื่อเป็นเชื้อเพลิงพลังงานชีวมวลโดยเฉพาะ เช่น ต้นพลังงานและสาหร่าย โดยหลายแห่งได้มีการพัฒนาแหล่งวัตถุดิบอย่างเป็นระบบเพื่อรองรับการผลิตพลังงานชีวมวลอย่างมีประสิทธิภาพ

พลังงานชีวมวล ผลิตไฟฟ้าได้อย่างไร?

การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวลสามารถทำได้หลายวิธี โดยกระบวนการที่นิยมในภาคอุตสาหกรรม ได้แก่:

  1. การเผาไหม้โดยตรง (Direct Combustion)

    เป็นวิธีที่ที่ง่ายที่สุดในการใช้พลังงานชีวมวลเพื่อผลิตไฟฟ้า โดยจะนำวัสดุชีวมวลมาเผาไหม้เพื่อให้ได้พลังงานความร้อน ซึ่งนำไปผลิตไอน้ำและกระแสไฟฟ้าต่อได้ โดยวิธีนี้เหมาะกับโรงงานที่มีวัสดุเหลือใช้จำนวนมาก และต้องการระบบที่ไม่ซับซ้อน

  2. การแปรรูปให้เป็นก๊าซชีวภาพ

    ก๊าซชีวมวล (ฺBiogas) เกิดจากการย่อยสลายวัตถุอินทรีย์แบบไร้ออกซิเจน (Anaerobic digestion) สก๊าซที่ได้เหล่านี้สามารถนำมาเป็นเชื้อเพลิงในการหุงต้มหรือนำไปผลิตกระแสไฟฟ้าได้ วิธีนี้เหมาะสำหรับโรงงานที่มีขยะอินทรีย์และเศษวัสดุจากการเกษตรในปริมาณมาก

  3. ระบบหม้อไอน้ำ CFB (Circulating Fluidized Bed)

    ระบบ CFB เป็นเทคโนโลยีการเผาไหม้ชีวมวลที่มีประสิทธิภาพสูง โดยใช้หลักการไหลเวียนของอากาศและการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม ทำให้เกิดการเผาไหม้สมบูรณ์ซึ่งลดการปล่อยก๊าซ NOx และ SOx ในกระบวนการผลิตได้มาก ระบบนี้สามารถใช้เชื้อเพลิงหลากหลายชนิดผสมกันได้ จึงเหมาะกับโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความเสถียรด้านพลังงานเป็นอย่างสูง

ข้อดีและข้อเสียของพลังงานชีวมวล

พลังงานชีวมวลเป็นพลังงานหมุนเวียนที่ใช้ได้อย่างไม่จำกัดและไม่มีวันหมดไป จึงมีบทบาทสำคัญโดยเฉพาะกับอุตสาหกรรมที่ต้องการลดภาระทางสิ่งแวดล้อม พลังงานชีวมวลไม่เพียงแต่จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอน แต่ยังส่งเสริมชุมชนท้องถิ่นโดยไม่ลดความมั่นคงและประสิทธิภาพทางด้านพลังงาน

ข้อดีของพลังงานชีวมวล

  • ลดปริมาณขยะทางชีวภาพทั้งในอุตสาหกรรมและครัวเรือน และช่วยลดการฝังกลบหรือเผาทำลาย

  • ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas)

  • ลดต้นทุนพลังงานในระยะยาว โดยลดการพึ่งพาทรัพยากรทางธรรมชาติและพลังงานภายนอก

  • การติดตั้งระบบพลังงานชีวมวลอาจมีต้นทุนเริ่มต้นที่สูง ทั้งในด้านเครื่องจักร โครงสร้างและระบบควบคุมการปล่อยมลพิษ

  • ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับของเหลือทางการเกษตรและเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น

ข้อเสียของพลังงานชีวมวล

แม้พลังงานชีวมวลจะมีข้อดีหลายประการในด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ แต่ในเชิงอุตสาหกรรม ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ผู้ประกอบการควรพิจารณา โดยเฉพาะเมื่อวางแผนลงทุนหรือปรับเปลี่ยนระบบพลังงานในระยะยาว

  • การติดตั้งระบบพลังงานชีวมวลอาจมีต้นทุนเริ่มต้นที่สูง ทั้งในด้านเครื่องจักร โครงสร้างและระบบควบคุมการปล่อยมลพิษ

  • มีต้นทุนในการจัดเก็บและขนส่ง วัตถุดิบชีวมวล เช่น ฟางหรือแกลบ มีปริมาตรมากแต่พลังงานต่ำ ทำให้ต้องใช้พื้นที่จัดเก็บขนาดใหญ่และมีต้นทุนในการขนส่งสูง

  • คุณภาพของเชื้อเพลิงแต่ละชนิดมีไม่เท่ากัน อีกทั้งยังมีปัจจัยเรื่องความชื้น สารปนเปื้อน ขนาด และปริมาณ

สรุป

พลังงานชีวมวล ไม่ได้เป็นแค่เป็นพลังงานสะอาดทางเลือกที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน เพิ่มมูลค่าให้กับของเสียทางชีวภาพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน อีกทั้งยังยกระดับอุตสาหกรรม

โดยทุกโครงการภายใต้สวนอุตสาหกรรม 304 สนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยมีความโดดเด่นในด้านระบบสาธารณูปโภคที่ครบวงจร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องและมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นระบบน้ำและไฟฟ้าที่เพียงพอ รวมถึงความสามารถในการจัดจำหน่ายพลังงานหมุนเวียนภายในพื้นที่

ระบบไฟฟ้าพลังงานชีวมวลของสวนอุตสาหกรรม 304 มีความโดดเด่น ดังนี้:

  • โรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วยกำลังการผลิต 135 เมกะวัตต์รองรับโรงงานที่ต้องการใช้พลังงานชีวมวลในปริมาณมากได้อย่างต่อเนื่อง มีเสถียรภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

  • กำลังการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลรวมสูงถึง 398 เมกะวัตต์รองรับความต้องการใช้พลังงานในระดับอุตสาหกรรมได้อย่างมั่นคง

  • ลดการปล่อยคาร์บอนได้มากถึง 97%สนับสนุนความเป็นกลางทางคาร์บอนและเป้าหมาย Net Zero ในอนาคต

  • พร้อมออกใบรับรองพลังงานหมุนเวียน จาก I-REC (Renewable Energy Certificate)สะท้อนถึงคุณภาพและความน่าเชื่อถือ รองรับการซื้อขายในตลาดสากล

  • แหล่งเชื้อเพลิงชีวมวลมีความมั่นคงและยั่งยืนมาจากเศษวัสดุทางการเกษตร ของเหลือจากอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษ และ “ต้นพลังงาน” ที่ปลูกได้เองภายในประเทศ

สวนอุตสาหกรรม 304 พร้อมให้บริการทั้งด้านพื้นที่สำหรับการก่อสร้างโรงงาน ระบบสาธาณูปโภค และบริการโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าที่จะตอบโจทย์ทุกความต้องการทางธุรกิจของคุณ

Related Blogs

สวนอุตสาหกรรม 304

สร้างระบบนิเวศที่พร้อมสำหรับอนาคตสำหรับธุรกิจ ด้วยพลังงานสีเขียว สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และการเชื่อมต่อระดับโลก

ติดต่อเรา
Contact background