เมื่อเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เริ่มเป็นที่นิยมในตลาดโลก กระแสการผลิตและใช้ EV Car ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดยานยนต์ที่มีกำลังซื้อจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยต้องเผชิญกับความท้าทายและโอกาสในการปรับตัวเพื่อรองรับแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้นในตลาด EV Car นับตั้งแต่การประกาศนโยบายของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่หลายแบรนด์ เช่น BMW, BENZและ TESLA ที่กำลังเข้ามาทำการตลาดในประเทศไทย รวมไปถึงบริษัทชั้นนำจากประเทศจีนที่นับว่าเป็นประเทศที่มียอดขาย EV Car มากที่สุด ในโลก ซึ่งรัฐบาลจะต้องกำหนดนโยบายให้แน่ชัดเกี่ยวกับการสนับสนุนผู้ประกอบการที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า
ทำไมรัฐบาลต้องให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนภายในประเทศ
ด้วยข้อกำหนดจากต่างประเทศเกี่ยวกับการยกเลิกการใช้รถที่ใช้น้ำมันในการสันดาปและหันมาสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อต้องการรักษาสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง ซึ่งล่าสุด กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป หรือ EU ออกมาประกาศเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2023 ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการเห็นชอบว่าด้วยกฎหมายยกเลิกการจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ผลิตขึ้นใหม่นับตั้งแต่ปี 2035 เป็นต้นไป เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ที่รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนภายในประเทศ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงเพื่อสนับสนุนในมิติของการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ยังเป็นการคาดหวังด้วยว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ด้วยเมื่อมีการสนับสนุนด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าก็ย่อมตามมาด้วยการสร้างอาชีพ สร้างความเจริญด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีให้กับประเทศ
การเปลี่ยนแปลงของผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในประเทศ
ในสถานการณ์สงครามชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของ EV Car ผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรับการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพราะอาจต้องเผชิญกับปัญหาในไม่ช้า เนื่องจากชิ้นส่วนของรถยนต์ไฟฟ้ามีจำนวนน้อยกว่ารถยนต์ใช้น้ำมัน ในขณะที่ชิ้นส่วนบางชิ้นมีลักษณะใกล้เคียงหรือแบบเดียวกัน กับอีกบางส่วนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ยกตัวอย่างพาร์ทหรือชิ้นส่วนที่เหมือนกัน คือ ตัวถัง, ระบบกันสะเทือน, ช่วงล่าง, เบรก, ยางรถ, วงล้อ, ระบบประอากาศ, ระบบส่งกำลัง, แบตเตอรี่และระบบความปลอดภัย ซึ่งบริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนเหล่านี้อยู่แล้วอาจปรับตัวไม่มาก แต่ถ้าเป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, แผงวงจร, ชิปประมวลผล, เซมิคอนดักเตอร์ ถือเป็นโอกาสของบริษัทที่มีไลน์ผลิตแผงวงจรไฟฟ้าอยู่ก่อนแล้วและนักลงทุนที่ต้องการเข้ามาเจาะตลาดในส่วนนี้ที่อุตสาหกรรมในประเทศยังขาดแคลน อย่างชิปประมวลผลและระบบเซนเซอร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า
การแข่งขันที่สูงขึ้น
ต้องยอมรับว่าการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในสวนอุตสาหกรรมปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงมากเมื่อเทียบกับในอดีต เพราะบริษัทผลิตรถยนต์กระจายโรงงานผลิตครอบคลุมทั่วภูมิภาคทำให้ไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่เป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์อีกต่อไป แต่ยังมีเวียดนาม อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะการแข่งขันส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าผู้ผลิตในประเทศจะต้องแข่งขันกับผู้ผลิตจากประเทศจีน ซึ่งเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย
โอกาสของผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ
ด้วยนโยบายของภาครัฐเกี่ยวกับมาตรการทางภาษีที่ช่วยส่งเสริมเกี่ยวกับผู้ประกอบชิ้นส่วนยานยนต์ในสวนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าและทิศทางแนวโน้มของราคาน้ำมันโลกที่นับวันยิ่งจะสูงขึ้น ประกอบกับสนธิสัญญาการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะเป็นตัวบังคับและเร่งให้ในอนาคตประเทศไทยอาจมีจำกัดการใช้รถสันดาปด้วยน้ำมันและเปลี่ยนไปใช้ EV Car แทน เพราะปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าหลายค่ายที่ผลิตในนิคมอุตสาหกรรมต่างได้รับการยอมรับจากคนใช้รถมากขึ้น เพียงแต่ในเส้นทางไปต่างจังหวัดยังมีสถานีชาร์จไฟไม่เพียงพอกับความต้องการ อีกทั้งในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าจำเป็นที่จะต้องได้รับการเปลี่ยนอะไหล่บางชนิดในทุก ๆ 3-5 ปี จึงเป็นโอกาสของผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ โดยกลุ่มเป้าหมายอาจมิใช่ลูกค้า OEM (Original Equipment Manufacturer) แต่หากเป็นลูกค้า REM (Replacement Equipment Manufacturing ) หรือที่เป็นพาร์ทอะไหล่ทดแทน ซึ่งคาดว่าจะมีสัดส่วนมากถึง 70% ของมูลค่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้านี้
ที่มาของข้อมูล